ชื่อไทย : | กระบาก | ||||||||
ชื่อท้องถิ่น : | กระบากขาว(ชลบุรี,สงขลา)/ กระบากโคก(ตรัง)/ กระบากด้าง, กระบากช่อ(ชุมพร)/ กระบากดำ(ชุมพร,สุราษฎร์ธานี)/ กระบากแดง(ชุมพร,ระนอง)/ ตะบาก(ลำปาง)/ บาก(ชุมพร)/ พนอง(จันทบุรี,ตราด) | ||||||||
ชื่อสามัญ : | Mesawa | ||||||||
ชื่อวิทยาศาสตร์ : | Anisoptera costata Korth. | ||||||||
ชื่อวงศ์ : | DIPTEROCARPACEAE | ||||||||
ลักษณะวิสัย : | ไม้ยืนต้น | ||||||||
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : |
ลำต้น : ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูงถึง 40 เมตร ผลัดใบระยะสั้น ลำต้นเปลาตรง มีพูพอนต่ำๆเปลือกสีน้ำตาลอมเทา แตกเป็นร่องเป็นสะเก็ดหนา ใบ : เดี่ยวเรียงสลับ ใบรูปรี รูปไข่กลับถึงรูปขอบขนาน กว้าง 6-8 ซม. ยาว 6-16 ซม. ปลายใบมนหรือแหลมเป็นติ่งสั้นๆ โคนใบมนหรือเว้าเล็กน้อย ผิวใบด้านบนเกลี้ยง ด้านล่างมีขนสีน้ำตาลอมเหลือง แผ่นใบหนา เส้นแขนงใบข้างละ 12-19 เส้น ก้านใบยาว 1.3-1.6 ซม. ดอก : ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะสั้นๆ ตามซอกใบและปลายกิ่งช่อยาว 10 ซม. สีขาวหรือเหลืองอ่อน กลีบเลี้ยง 5 กลีบ เรียงซ้อนเวียนกัน ก้านดอกและกลีบเลี้ยงมีขนนุ่ม มีกลิ่นหอม ดอกบานเต็มที่กว้าง 1-2.5 ซม. ผล : แห้งแบบมีปีก รูปกลม เรียบ ขนาด 1 ซม. มีปีกยาว 2 ปีกและปีกสั้น 3 ปีก โคนปีกติดเป็นเนื้อเดียวกันกับตัวผล เมล็ด มี 1 เมล็ดต่อผล |
||||||||
ระยะติดดอก - ผล : |
|
||||||||
สภาพทางนิเวศวิทยา : | นิเวศวิทยา ป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณชื้นทั่วไป ถิ่นกำเนิด การกระจายพันธุ์ การใช้งานด้านภูมิทัศน์ เป็นต้นไม้ที่สง่างาม ดอกและผลสวย ควรปลูกในพื้นที่กว้าง | ||||||||
การปลูกและการขยายพันธุ์ : | สภาพดินทุกชนิด กลางแจ้ง ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง เพาะเมล็ด | ||||||||
รายละเอียดการใช้ประโยชน์ : | |||||||||
แหล่งอ้างอิง : | [1] เอื้อมพร วีสมหมาย และปณิธาน แก้วดวงเทียน. 2552. ไม้ป่ายืนต้นของไทย 1. พิมพ์ครั้งที่ 2. เอช เอ็น กรุ๊ปจำกัด. กรุงเทพมหานคร. [2] ต้นไม้และดอกไม้ประจำจังหวัด http://www.panmai.com/ 23082553 | ||||||||
ประเภทของการใช้ประโยชน์ : | ไม่ได้ระบุประเภทการใช้ประโยชน์ | ||||||||
ที่อยู่ : |
|
||||||||
หมายเหตุ : | ต้นไม้ประจำจังหวัดยโสธร |