เรื่องเล่าพรรณพฤกษาอาเซียน ตอนที่ ๖
|
||||||||
ซิมปอร์ ดอกไม้ประจำชาติของบรูไนดารุสซาลาม Simpor is the National Flower of Brunei Darussalam
Selamat, apa khabar.
บรูไนดารุสซาลามหรือ Negara Brunei Darussalam (Estado de Brunéi, Morada de la Paz) บรูไนเป็นประเทศที่อยู่บนเกาะบอร์เนียว (Borneo Island) ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งประกอบด้วยดินแดนของ 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย (Sabah และ Sarawak) บรูไน (Brunei) และอินโดนีเซีย (Kalimantan) ซึ่งดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำประเทศบรูไนก็คือ “ดอกซิมปอร์” (Simpor Flower) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อว่า “ดอกส้าน” Simpor เป็นชื่อในภาษาพื้นเมืองที่ชาวบรูไนใช้เรียกดอกชนิดนี้ หรืออาจจะเรียกชื่ออื่น ๆ เช่น ‘Simpoh’ หรือ ‘Simpur’ ซึ่งเชื่อว่าชื่อ Simpoh น่าจะได้มาจากเสียงแซ่ ๆ โดยเสียงดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อลำต้นหรือกิ่งก้านของ Simoh นั้น ถูกตัดขาดออกจากกัน (อาจจะต้องใช้หูแนบฟังกันเลยทีเดียว) ใบจะทำหน้าที่ดูดน้ำขึ้นกลับคืน ทำให้อากาศถูกดูดเพื่อเข้าไปแทนที่น้ำภายในท่อขนาดเล็ก ๆ ที่อัดอยู่กันแน่นภายใน จึงทำให้เกิดเสียงดังกล่าวขึ้น (Tan and Latiff, 2014) ซิมปอร์เป็นพืชที่พบได้โดยทั่วไปในประเทศบรูไน ในพื้นที่ที่ใกล้กับแหล่งน้ำต่าง ๆ เช่น แม่น้ำ ห้วย หนอง คลอง บึงต่าง ๆ พื้นที่ในป่าหรือขอบชายป่า ป่าพรุ ป่าชายเลน พื้นที่ระดับต่ำหรือพื้นดินที่เกิดจากการถมทะเล บริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำ หรือแม้กระทั้งบริเวณพื้นดินที่ถูกกัดเซาะพังทลาย ซิมปอร์สามารถเจริญเติบโตงอกงาม และดำรงชีวิตอยู่รอดได้ในถิ่นที่อยู่ที่มีความแตกต่างกันอย่างหลากหลายได้ (Habitat Varieties) ด้วยเหตุนี้เองดอกซิมปอร์จึงถูกนำไปใช้เป็นสื่อทางสัญลักษณ์ อย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือรูปภาพดอกซิมปอร์นั้นปรากฏอยู่ด้านหน้าของธนบัตรฉบับละ 1 ดอลลาร์บรูไน (Brunei Dollar; BND, B$) และนอกจากนี้ดอกซิมปอร์ยังได้รับเลือกให้เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของสมเด็จพระราชาธิบดีหรือองค์สุลต่านแห่งประเทศบรูไน เนื่องจากดอกซิมปอร์เป็นดอกไม้สีเหลืองที่มีความงดงามและทรงคุณค่าอันอเนกอนันต์ ดังจะเห็นได้จากธงประจำพระองค์ท่าน และธงชาติของประเทศบรูไน จะใช้สีเหลืองเป็นสีของพื้นธง ดังนั้น สีเหลือง* ของดอกซิมปอร์ดอกไม้ประจำชาติ สีเหลืองของธงชาติของประเทศบรูไน จึงเป็นดั่งสัญลักษณ์แทนพระองค์ สุลต่านแห่งประเทศบรูไน ก่อนอื่นใดขอมาทำความรู้จักกับเจ้าดอกไม้ชนิดนี้กันเสียก่อนนะครับ ซิมปอร์ เป็นพืชดอกที่จัดอยู่ในวงศ์ DILLENIACEAE และสกุล Dillenia ชื่อสกุลดังกล่าวให้ชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ Johana Jacob Dillenius (ค.ศ. 1684-1747) นักพฤกษศาสตร์และแพทย์อายุรเวทชาวเยอรมัน นอกจากนี้ Dillenius ยังดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด (University of Oxford) พืชในสกุล Dillenia เป็นพืชพื้นถิ่นที่พบได้โดยทั่วไปบริเวณพื้นที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อน ตั้งแต่ประเทศมาดากัสการ์เรื่อยไปจนถึงประเทศฟิจิ ภูมิภาคเอเชียใต้ ออสตราเลเซีย (Australasia*) และเกาะต่าง ๆ ในมหาสมุทรอินเดีย ลักษณะทั่วไป วิสัยเป็นไม้ยืนต้นหรือพบส่วนน้อยที่เป็นไม้พุ่ม เป็นไม้ไม่ผลัดใบหรือไม้ผลัดใบเป็นส่วนน้อย เปลือก สีแดง เทาหรือสีน้ำตาล ใบเดี่ยว ออกสลับ ใบขนาดใหญ่ ดอกเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มที่ปลายยอด ดอกขนาดใหญ่สีสันสดใส ดอกสมบูรณ์เพศ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ (4-18 กลีบ) กลีบเลี้ยงมักจะคงรูปอยู่เมื่อกลายเป็นผล กลีบดอก 5 กลีบ (4-7 กลีบ) หรือไม่มีกลีบดอก เกสรเพศผู้จำนวนมาก เกสรเพศผู้ที่อยู่ด้านในจะมีอับเรณูยาวกว่าเกสรเพศผู้ที่อยู่ด้านนอก อับเรณูรูปทรงยาว ส่วนมากแตกเป็น 2 ช่อง ตรงส่วนปลาย หรือแตกเป็น 2 ร่องตามแนวยาวแต่มักพบได้เป็นส่วนน้อย เกสรเพศเมียส่วนฐานเชื่อมติดกันจำนวน 4–20 รังไข่ และเชื่อมติดกับฐานรองดอกรูปทรงกรวย รังไข่แต่ละห้องมีไข่อ่อน 1 หรือมากกว่า ผลเดี่ยวหรือผลกลุ่ม ถูกปกคลุมด้วยกลีบเลี้ยงที่ขยายใหญ่ขึ้น โดยส่วนที่สามารถนำมารับประทานได้คือ ส่วนของกลีบเลี้ยงที่คงรูปห่อหุ้มเมื่อกลายเป็นผล (ชูศรี, 2547) ผลแห้งแตกตามยาวของรอยประสานหรือไม่แตก เมล็ดอาจมีเพียง 1 เมล็ดหรือหลายเมล็ด และมีหรือไม่มีเยื้อหุ้มเมล็ด ในปัจจุบันนิยมปลูกซิมปอร์เป็นไม้ดอกไม้และไม้ประดับ เพื่อใช้ตกแต่งสถานที่หรือใช้ตกแต่งสวน ปลูกตามถนนหนทางต่าง ๆ เนื่องจากเป็นพืชที่ปลูกได้ง่ายโดยปลูกจากเมล็ดหรือกิ่งตอน เจริญเติบโตเร็ว แข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ติดดอกออกผลให้ชื่นชมได้ตลอดทั้งปี มีทรงพุ่มที่สวยงาม และนอกจากนี้ส่วนต่าง ๆ ของซิมปอร์ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกอย่างหลากหลาย อาทิ - ซิมปอร์ ต้นซิมปอร์นับได้ว่าเป็นพืชชนิดหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัดเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำบริเวณใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี - เนื้อไม้ซิมปอร์ เนื้อไม้ไม่นิยมนำมาใช้ประโยชน์มากนัก เนื่องจากมีลักษณะลำต้นที่บิดเบี้ยว และเนื้อไม้เป็นไม้เนื้อแข็ง ที่แข็งมาก ซึ่งนับว่าเป็นผลดีที่ทำให้พืชชนิดนี้มีความแข็งแรงทนทาน และสามารถยังประโยชน์ต่อสรรพชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสัตว์น้อยใหญ่ชนิดต่าง ๆ พืชและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในระบบนิเวศน์ - เนื้อไม้ซิมปอร์ เป็นแหล่งที่ให้สารแทนนินสูง (Dillenia indica L.) - เนื้อไม้ซิมปอร์ ใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงสร้างอาคารบ้านเรือน ทำเครื่องเรือน เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ และงานตกแต่งอื่น ๆ (D. indica L. และ D. excels (Jack) Martelli ex Gilg.) (Tan, 2008) - เปลือกต้นซิมปอร์ มีรสฝาด ขม ใช้รักษาอาการท้องร่วง (D. ovata Wall. ex Hook. f. & Thomson) (Tan 2008) (D. grandifolia; synonym) - เปลือกต้นและผลซิมปอร์ มีสรรพคุณรักษาโรคท้องร่วง (D. excels (Jack) Martelli ex Gilg.) (Tan, 2008) - ยอดและใบอ่อนซิมปอร์ ใช้เป็นยาพอกปิดบาดแผล เพื่อห้ามเลือดและรักษาแผล - ใบซิมปอร์ มีขนาดใหญ่ ครั้งหนึ่งเคยได้รับความนิยมใช้ห่อหุ้มอาหาร จนกระทั้งปัจจุบันความนิยมดังกล่าวได้เปลี่ยนไป กระดาษและถุงพลาสติกกลับได้รับความนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ถึงกระนั้นอาหารพื้นเมืองอย่างเช่น เทมเป้ (Tempeh*) ข้าวหมาก (Tapai* หรือ tape) และเมนูปลาอย่าง Pais* ชาวบ้านยังคงนิยมใช้ใบซิมปอร์ห่อหุ้มอาหารพื้นเมืองดังกล่าวเช่นเดิม หรือใช้ห่อข้าว ห่อกับข้าว เพื่อนำไปรับประทานระหว่างวัน เพราะสะดวกและง่ายสำหรับการพกพา - ใบซิมปอร์ นำมากลัดเป็นกระทงหรือกรวยก้นตื่น ๆ ใช้แทนจานเพื่อใส่อาหารพื้นเมืองที่ประกอบและปรุงอย่างง่าย ๆ หรือใช้เสิร์ฟสำหรับเมนูจานด่วน เช่น โรจัก (Rojak*) นาซิเลอมัก (Nasi lemak*) เป็นต้น - ใบซิมปอร์ ที่เจริญเติบโตเต็มที่หรือใบแก่นั้น ภายในเนื้อเยื้อของใบจะประกอบด้วยซิลิกาที่ถูกเก็บสะสมไว้ ใบซิมปอร์จึงนำมาใช้แทนกระดาษทรายได้ และใช้ขัดพื้นผิวฟันบริเวณที่อุดทำฟันให้เรียบอีกด้วย - ใบซิมปอร์ นกกระจิบ (Tailorbirds) พวกมดและแมลงชนิดต่าง ๆ มักจะใช้เพื่อสร้างรัง - ยอด ใบอ่อน ดอกและผลซิมปอร์ รับประทานได้ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของสัตว์ขนาดเล็ก สัตว์มีเท้ากีบ และสัตว์จำพวกไพรเมต รวมถึงมนุษย์ด้วยเช่นกัน - กลีบเลี้ยงของดอกซิมปอร์ ใช้สำหรับปรุงรสอาหาร (D. ovata Wall. ex Hook. f. & Thomson) (Tan, 2008) (D. grandifolia; synonym) - ผลดิบซิมปอร์ รับประทานสด ปรุงเป็นผักดองหรือใส่เป็นผักในแกงเผ็ด และใช้เป็นส่วนผสมเพื่อทำชัทนีย์ (Chutney*) (D. indica L.) (Tan, 2008) - เนื้อในผลซิมปอร์ น้ำคั้นมีกลิ่นหอม ความเป็นกรดสูง และใช้ทำแยมผลไม้รับประทานได้ สรรพคุณใช้รักษาอาการไอ และสารสกัดที่ได้จากผลเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ (D. indica L.) (Tan, 2008) - เมล็ดซิมปอร์ เป็นอาหารของนกหลายชนิด เนื่องจากเมล็ดมีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดงสด มีความโดดเด่นสะดุดตาอันไม่อาจต้านทาน และดึงดูดความสนใจของนกชนิดต่าง ๆ ได้ นกเหล่านี้จึงเป็นผู้ช่วยชั้นดีเยี่ยม เพื่อกระจายเมล็ดพันธุ์ไปได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การพัดพาเอาผลและเมล็ดที่ล่วงหล่นไปพร้อมกับกระแสน้ำยังเป็นตัวช่วยการกระจายพันธุ์ได้อีกทางหนึ่ง เนื่องจากต้นซิมปอร์ส่วนใหญ่มักเจริญเติบโตและอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำ - ซิมปอร์ ยังใช้สำหรับพิธีกรรมตามความเชื่อทางศาสนา ตลอดจนงานที่เกี่ยวกับศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน การออกแบบงานฝีมือของผู้คนในท้องถิ่น นอกจากนี้ชาวบรูไนยังนิยมนำดอกซิมปอร์ดอกไม้ประจำชาติมาใช้เพื่อสื่อสารเชิงสัญลักษณ์ โดยผ่านรูปภาพดอกซิมปอร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างยิ่ง สำหรับใช้เป็นตัวแทนของประชาชนและประเทศบรูไน มาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานร่วม 20 ปี
ได้แนะนำให้รู้จักดอกซิมปอร์ ดอกไม้สัญลักษณ์ประจำชาติของบรูไน ความสำคัญและการใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ รอติดตาม ดอกซิมปอร์สื่อสัญลักษณ์ของการแสดงออกถึงความเป็นบรูไนต่อได้ใน Ep. 2/3 นะครับ กวีศิลป์ คำวงค์ *อภิธานศัพท์; Glossary ซอสมันกุ้ง เรียกว่า “แฮโกว” (Haeko-มาเลเซีย) หรือ “ปาติส” (Patis-อินโดนีเซีย) มีส่วนผสมคือ พริกป่น น้ำตาลทรายแดง กะปิ น้ำมะขามเปียก ถั่วลิสงคั่วบด สีเหลือง วัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สีเหลืองได้รับการยกย่องให้เป็นสีแห่งสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า เป็นสีประจำ Australasia ออสตราเลเซีย คือ ชื่อที่ใช้เรียกภูมิภาคโอเชียเนีย ประกอบด้วยดินแดนของประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และหมู่เกาะใกล้เคียงใน Batik เรียกว่า “ผ้าบาติก” เป็นเทคนิคการย้อมสีสิ่งทอด้วยมือ โดยใช้ขี้ผึ้งเหลวเป้นตัวปกคลุมส่วนที่ไม่ต้องการให้ย้อมติดสี Chutney เรียกว่า “ชัทนีย์” เป็นเครื่องปรุงรส ที่มีต้นกำเนิดมาจากอินเดียตะวันตก วัตถุดิบประกอบด้วย ผัก ผลไม้ สมุนไพรและเครื่องเทศ ปรุงรสด้วยน้ำตาลและ Nasi lemak เรียกว่า “นาซิ ลอมัก” เป็นชื่อเมนูอาหารของชาวมลายูที่ทำจากข้าวหุงด้วยน้ำกะทิและใบเตยหอม ทำให้ข้าวมีกลิ่นหอมอร่อยน่ารับประทาน ถือว่าเป็น Pais ชื่อเมนูอาหารประเภทปลาที่หมักด้วยซอสหรือเครื่องเทศต่าง ๆ แล้วจึงห่อด้วยใบซิมปอร์ ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในประเทศบรูไน Rojak เรียกว่า “รอเยาะ โรจัก หรือโรจ๊าก” เป็นชื่อเมนูอาหารพื้นเมืองในประเทศบรูไน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ คนไทยนิยมเรียกชื่อเมนูอาหาร Tapai หรือ Tape เรียกว่า “ทาไปหรือทาเป” เป็นชื่อเมนูอาหารทานเล่นที่คนไทยเรียกว่า “ข้าวหมาก” ทำจากข้าวเหนียวนึ่งสุก ผสมด้วยลูกแป้งหรือยีสต์ Tempeh เรียกว่า “เทมเป้” ชื่อเมนูอาหารพื้นเมืองของชาวอินโดนีเซียที่ทำจากถั่วเหลืองหมัก แล้วจึงนำไปทอดให้กรอบ
|