ทำไม ? ต้อง หางนกยูง “ไทย” หางนกยูง “ฝรั่ง”
ต้นหางนกยูง หรือที่คนเมืองเหนือเราเรียกว่า “ซอมพอ” และยังมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปอีกคือ ซอมพอหน้อย ที่ใช้เรียกต้นหางนกยูงไทย และซอมพอหลวง ใช้เรียกหางนกยูงฝรั่ง ว่าแต่หางนกยูงทั้งไทยและฝรั่งนี้ เหมือนหรือต่างกันยังไง ทำไมต้องใช้คำว่านกยูงในชื่อ มาดูกันค่ะ
ทั้งต้นหางนกยูงไทยและหางนกยูงฝรั่ง เป็นพรรณไม้ต่างประเทศ ที่มีการนำเข้ามาปลูกและเกิดการกระจายพันธุ์ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยเรา โดยหางนกยูงไทยมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศแถบอเมริกาเขตร้อน อย่าง กัวเตมาลา เม็กซิโก นิการากัว ส่วนหางนกยูงฝรั่งมีถิ่นกำเนิดจากประเทศมาดาร์กัสการ์ ถึงแม้จะชื่อคล้ายกัน แต่ทั้งหางนกยูงไทยและหางนกยูงฝรั่งเป็นพืชคนละสกุล โดยทั้งสองเป็นพืชในวงศ์ถั่ว (Fabaceae) เหมือนกัน แต่หางนกยูงไทยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Caesalpinia pulcherrima (Linn.) Swartz อยู่ในสกุล Caesalpinia ส่วนหางนกยูงฝรั่งมีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Delonix regia (BoJ. ex Hook.) Raf อยู่ในสกุล Delonix
และชื่อที่เรียกว่า “หางนกยูง” มาจากรูปร่างของดอกทั้งคู่ถึงแม้ตามลักษณะทางพฤกษศาสตร์จะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่กลีบดอก 5 กลีบที่ไม่เท่ากัน และลักษณะเกสรตัวผู้ที่ยาวงอน คล้ายนกยูงกำลังรำแพนอยู่ จึงเป็นที่มาของชื่อหางนกยูง ส่วนการแยกออกเป็นหางนกยูงไทยและฝรั่งบ้างก็ว่ามาจากลักษณะลำต้น หางนกยูงไทยจะเป็นไม้พุ่มที่สูงได้ถึง 2.5 เมตร ส่วนหางนกยูงฝรั่งเป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ สูงได้ถึง 15 เมตร จึงเป็นอีกหนึ่งที่มาของชื่อที่คนไทยจะใช้เปรียบเทียบว่าหางนกยูงไทยเหมือนรูปร่างคนไทยที่ตัวเล็กกว่าหางนกยูงฝรั่งที่เหมือนรูปร่างคนฝรั่ง (ต่างชาติ) ที่โตกว่า
ลักษณะเด่นอีกหนึ่งอย่างของต้นหางนกยูงทั้งไทยและฝรั่งที่ทำให้ผู้คนชื่นชอบคือสีสันสดใส และมีหลายสี อย่างหางนกยูงไทยมีทั้งสีส้มอมแดง สีเหลือง และยังมีสีชมพูอีกด้วย ส่วนหางนกยูงฝรั่งมีทั้งสีส้มอมแดงเหมือนสีเปลวเพลิง ที่พบได้ทั่วไป ยังมีสีที่ลดระดับความเข้มลงเป็นอีกเฉดสีใหม่ที่สวยงามไม่แพ้กัน รวมถึงหางนกยูงที่มีกลีบดอกสีเหลืองทอง ที่ได้รับความสนใจมาก จึงมักเรียกหางนกยูงฝรั่งที่มีสีเหลืองทองนี้ว่า “หางนกยูงสีทอง” แต่ด้วยหางนกยูงสีทองนี้ติดฝักได้ยากมาก การขยายพันธุ์จึงเป็นการขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่นที่นอกเหนือจากการเพาะเมล็ด เราจึงพบต้นหางนกยูงดอกสีเหลืองทองแบบนี้ได้น้อยในธรรมชาติ
ในอุทยานหลวงราชพฤกษ์เรามีหางนกยูงทั้งไทย ฝรั่ง หลายเฉดสีรวมถึงหางนกยูงดอกสีเหลืองทองให้ทุกท่านได้เที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.