ชื่อไทย : | ทับทิม | ||||||||||||||||||||||||
ชื่อท้องถิ่น : | พิลา (หนองคาย)/ พิลาขาว, มะก่องแก้ว (น่าน)/ มะเก๊าะ (เหนือ) | ||||||||||||||||||||||||
ชื่อสามัญ : | Pomegranate | ||||||||||||||||||||||||
ชื่อวิทยาศาสตร์ : | Punica granatum L. granatum | ||||||||||||||||||||||||
ชื่อวงศ์ : | LYTHRACEAE | ||||||||||||||||||||||||
ลักษณะวิสัย : | ไม้พุ่ม | ||||||||||||||||||||||||
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : |
ลำต้น : เป็นไม้พุ่ม สูง 2-5 เมตร แตกกิ่งก้านโปร่งยาว เปลือกต้นสีเทาค่อนข้างเรียบ กิ่งเล็กมักเปลี่ยนรูปเป็นหนามแหลม ใบ : เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้าม รูปรีแกมรูปขอบขนาน กว้าง 1-2 ซม. ยาว 4-6 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบมนแคบ แผ่นใบเรียบ สีเขียว ใบอ่อนสีแดง ดอก : ออกดอกเดี่ยวหรือช่อ 2-5 ดอก ตามซอกใบและปลายยอด ดอกสีส้มแดง กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกัน ปลายเป็นแฉกแหลม 6 แฉก สีส้มแกมเหลือง กลีบดอกมี 6 กลีบ เกสรเพศเมียและเพศผู้ร่วงง่าย ผล : รูปทรงค่อนข้างกลม เปลือกหนาเกลี้ยง สีเหลืองปนน้ำตาล ปลายผลเป็นแฉกจากกลีบเลี้ยงของดอก เมื่อผลแก่มีสีแดงเรื่อ เมล็ด จำนวนมาก เนื้อหุ้มเมล็ดใสสีชมพูสด รสหวานอมเปรี้ยว |
||||||||||||||||||||||||
ระยะติดดอก - ผล : |
|
||||||||||||||||||||||||
สภาพทางนิเวศวิทยา : | นิเวศวิทยา ถิ่นกำเนิด ตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปไปจนถึงแถบเทือกเขาหิมาลัย การกระจายพันธุ์ การใช้งานด้านภูมิทัศน์ | ||||||||||||||||||||||||
การปลูกและการขยายพันธุ์ : | เพาะเมล็ด และตอนกิ่ง | ||||||||||||||||||||||||
รายละเอียดการใช้ประโยชน์ : | - เปลือกผลแก่ ตากแห้งรักษาอาการท้องร่วง ฝนกับน้ำข้น ๆ กินวันละ 1-2 ครั้ง กินมากเป็นอันตรายได้ หรือฝนกับน้ำทาแก้น้ำกัดเท้า - ราก ใช้ฆ่าพยาธิตัวตืด - น้ำทับทิม(จากเนื้อหุ้มเมล็ด) ใช้ลดความดันโลหิต ใช้ร่วมกับบัวบก ลดภาวะโรคเหงือก [1] - เมล็ดรับประทานได้ - ใช้ยอดอ่อนประกอบพิธีสำคัญทางศาสนา [2] - เปลือกรากนำมาตากแห้งต้มน้ำกินเป็นยาแก้ระดูขาว ตกเลือด - เปลือกต้นมีแทนนินและกรดกลูโลแทนนิก (glullotannic acid) มีสรรพคุณแก้ท้องร่วง ช่วยถ่ายพยาธิ แต่ไม่ควรกินในปริมาณมาก เพราะจะทำให้เวียนศีรษะ คลื่นไส้และใจสั่น - เปลือกผลสดๆ มาต้มกับน้ำ 1 แก้ว ใส่เกลือเล็กน้อย ใช้อมกลั้วคอตอนเช้าและก่อนนอน ช่วยแก้ปวดฟัน เหงือกบวม และเจ็บคอ หรือบดเป็นผลต้มน้ำดื่มแก้ท้องเสียและบิดเรื้อรัง หรือผสมกับน้ำมันพืชใช้ทาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก หรือใช้ทาแก้น้ำกัดเท้า - ยอดใบสดนำมาต้มน้ำ 2 แก้ว ร่วมกับกะเพราอย่างละ 7 ยอด ใช้ดื่มแก้ท้องร่วงได้ - น้ำคั้นจากเนื้อผลช่วยลดอุณหภูมิภายในร่างกาย ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับผู้ที่กำลังฟื้นไข้ แก้อาการคลื่นเหียนอาเจียน ช่วยบำรุงสายตา หัวใจ ไต และลดความดันโลหิต ดื่มหลังอาหาร ช่วยบรรเทาอาการท้องอืดเฟ้อได้ - เมล็ด บดให้ละเอียดกินแก้ปวดท้องเนื่องจากโรคกระเพาะ [3] | ||||||||||||||||||||||||
แหล่งอ้างอิง : | [1] คณะกรรมการวิชาการดำเนินงานส่วนสวนสมุนไพรพืชสวนโลก. 2549. สวนสมุนไพรในงานมหกรรมพืชสวนโลก 2549. Herbal Garden in Royal Flora Expo 2006. บริษัท สามเจริญพาณิชย์(กรุงเทพฯ) จำกัด. กรุงเทพมหานคร. [2] วชิรพงศ์ หวลบุตตา. 2542. ไม้ต้นประดับ เล่ม 1-2. พิมพ์ครั้งแรก. สำนักพิมพ์บ้านและสวน. กรุงเทพมหานคร. [3] อุไร จิรมงคลการ. 2547. ผลไม้ในสวน. Fruits. พิมพ์ครั้งแรก. สำนักพิมพ์บ้านและสวน. กรุงเทพมหานคร. | ||||||||||||||||||||||||
ประเภทของการใช้ประโยชน์ : | ไม่ได้ระบุประเภทการใช้ประโยชน์ | ||||||||||||||||||||||||
ที่อยู่ : |
|
||||||||||||||||||||||||
หมายเหตุ : |